มาถอดรหัสภาษาท่าทางของหนูกันดีกว่าจ้ะ...
รหัส : หนูอายุ 6 สัปดาห์ค่ะ ตกใจสะดุ้งโหยงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดัง ทำไมรู้มั้ยคะ?
ความหมาย : นั่นเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับที่เรียกว่า Moro Reflex ซึ่งมีให้เห็น ในเด็กทารกแรกเกิดเกือบทุกคน และปฏิกิริยานี้จะคงอยู่กับลูกไปจนแกอายุได้ประมาณ 5 เดือนก็ จะหายไปเองค่ะ (แต่ถ้าหลังจากนั้นแล้ว ยังมีปฏิกิริยาสะท้อนกลับให้เห็นอีกอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลูกมีปัญหาด้านระบบประสาทได้)
ปฏิกิริยาสะท้อนกลับแบบ Moro Reflex นี้ก็คือ (นึกภาพเด็กอ่อนอายุราว 6 สัปดาห์ที่กำลังนอนเล่นเพลินๆ อยู่บนฟูกของแกตามไปด้วยนะคะ) เวลาที่จู่ๆ มีเสียงดัง หรือ มีใครมาจับตัวลูกแบบปุบปับฉับพลัน ลูกจะกางแขนออกและนิ้วเหยียดตรง ขาทั้งสองข้างก็จะกระตุกชี้ขึ้นกลางอากาศ และดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ นี่คือปฏิกิริยาโดยกำเนิดของลูกที่บอกให้เรารู้ว่า แกกำลังพบเจอกับประสบการณ์ใหม่ที่อาจจะไม่น่าอภิรมย์เท่าไรนักค่ะ และคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้อง เป็นห่วงหรอกนะคะ เพราะอาการที่เกิดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ว่าลูกน้อยของเรามีระประสาทที่แข็งแรงเป็นปกติดีนั่นเอง
รหัส : ผมอายุ 2 เดือน ชอบทำเสียงอูๆ อาๆ แล้วจ้องหน้าแม่เหมือนรอให้แม่พูดด้วย จากนั้นผมก็ส่งเสียงอูๆ อาๆ อีก รู้มั้ยครับว่าผมกำลังทำอะไร?
ความหมาย : ลูกกำลังพยายามจะพูดคุยกับคุณไงคะ รู้มั้ย..เพียงอายุแค่ 2-3 เดือน ลูก ก็เริ่มสนใจอยากจะสื่อสารโต้ตอบกับคุณแล้วนะ นักวิชาการด้านการพูดและการฟังเขาอธิบายค่ะว่า ถึงแม้จะยังพูดไม่ได้ แต่ลูกก็ชอบส่งเสียงอูๆ อาๆ ที่มีท่วงทำนองขึ้นๆ ลงๆ คล้ายกับเสียงพูดของคน นอกจากนี้ลูกยังรู้จังหวะจะโคนว่าตอนไหนควรส่งเสียงตอนไหน ควรหยุดเพื่อรอให้คู่สนทนาโต้ตอบกลับมาด้วย นับเป็นก้าวแรกของการเรียนรู้ด้านภาษาของลูกที่น่าทึ่งมากเลยใช่มั้ยคะ?
รหัส : ผมอายุ 3 เดือน เวลาแม่คุยกับผมหรือกล่อมผม ผมชอบเอื้อมมือไปจับปากแม่จัง
ความหมาย : ลูกคงกำลังเรียนรู้และเชื่อมโยงว่าตัวเองมีปากและแม่ก็มีปากเหมือนกันนะ ลูกจะใช้มือในการสำรวจและระบุลักษณะเพื่อเก็บเป็นข้อมูลว่าสิ่งนี้คือปาก จากการสำรวจนี้เอง เชื่อมั้ยคะว่า เด็กบางคนพออายุได้สัก 10 เดือน เวลาคุณแม่ถามว่า "ปากอยู่ตรงไหนลูก" แกจะสามารถชี้บอกได้อย่างถูกต้องเลยล่ะค่ะ
ความหมาย : นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กบอกว่า "มือ" นั้นเป็นของเล่น อย่างแรกในชีวิตลูกเลยค่ะ นอกจากจะสนุกเหลือหลายแล้ว การเล่นกับมือยังสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการด้านระบบประสาทและจิตวิทยาขั้นพื้นฐานของลูกด้วยค่ะ เวลาที่ลูกขยับมือเข้า-ออก จับมือกัน หรือแยกมือออกจากกันนั้น ลูกกำลังเรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์และการพรากจากของสรรพสิ่ง และเข้าใจว่าสิ่งต่างๆ นั้น "มา" อย่างไร และ "ไป" อย่างไร เมื่อสังเกต เรียนรู้ และเข้าใจแล้ว ลูกจะบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้ในสมองน้อยๆ ที่แสนจะกว้างใหญ่ของแก และในที่สุดลูกก็จะเชื่อมโยงจนรับรู้ได้ว่า "แม่" และ "คนอื่นๆ" ในชีวิตของแกก็จะมาและไปจากแกด้วยเช่นเดียวกัน
ความหมาย : คำอธิบายแรกก็คือลูกรู้สึก "ดี" ที่ได้ทำอย่างนั้นค่ะ...และคำอธิบายต่อมา ก็คือที่ลูกชอบหยิบทุกอย่างเข้าปาก ไม่เว้นแม้กระทั่งมือและเท้าของตัวเอง ก็เพราะว่าปากนั้นเต็มไปด้วยปลายประสาทจำนวนมากที่เป็นประตูเปิดรับข้อมูลสู่การเรียนรู้และเข้าใจโลกของแกนั่นเอง
ความหมาย : เรื่องธรรมด๊าธรรมดาค่ะ นักภาษาศาสตร์เขาเรียกกิริยาอาการแบบนี้เป็น ศัพท์ภาษาฝรั่งว่า "ไบลาไบอัล ทริลส์ (Bilabial trills)" คือการใช้ริมฝีปากบน ริมฝีปากล่าง และลิ้นก่อให้เกิดเสียงขึ้นมา ทีนี้หนูน้อยของเราแกเผอิญค้นพบเทคนิคนี้เข้า ทำแล้วเกิดเสียงแปลกๆ ยิ่งฟังยิ่งชอบใจ ยิ่งทำยิ่งเพลิน แถมภูมิใจอีกต่างหาก ก็เลยเป่าปากส่งเสียงอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่รู้เบื่อไงคะ ไม่ใช่แค่สิ่งใหม่เพื่อความสนุกเพลิดเพลินเท่านั้นนะ การทำเช่นนี้ยังเป็นบันไดไปสู่การเรียนรู้ภาษาพูดของลูกด้วย เพราะก่อนที่ลูกจะพูดเป็นคำๆ ได้ แกต้องเรียนรู้วิธีอ้าปาก กระดกลิ้น ขยับริมฝีปากทั้งบนและล่างให้สัมพันธ์กันเพื่อจะได้เปล่งถ้อยคำได้อย่าง ถูกต้องนั่นเอง...จากเรื่องธรรมดานำไปสู่พัฒนาการที่ไม่ธรรมดาเลยนะคะ
ความหมาย : ยืนยันคำตอบเดิมค่ะว่าที่ลูกทำอย่างนี้เพราะลูกทำได้และรู้สึกสนุก ชอบด้วยเหตุผลก็คือ ลูกน้อยของเรานั้นกำเนิดมาพร้อมกับแรงจูงใจที่จะพิชิตสิ่งต่างๆให้ได้ แต่เพราะความที่แกยังเล็กอยู่มาก สิ่งที่แกควบคุมได้จึงมีอยู่น้อยนิดเหลือเกิน ทีนี้พอลูกพบว่า ตัวเองทำเสียงอะไรแปลกๆ ขึ้นมาได้สักอย่าง และทำซ้ำได้ตามใจปรารถนา ลูกย่อมรู้สึกว่าตัวเองได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่เป็นธรรมดา เห็นภาพตามแล้วใช่มั้ยคะ? เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถช่วยกระตุ้นและเล่นกับลูกได้ โดยลองไอตอบลูกดูสิคะ ลูกอาจจะหัวเราะตอบดังเอิ๊กอ๊ากเลยทีเดียว เพราะแกจะรู้สึกว่า แหม...นอกจากจะควบคุมการไอของตัวเองได้แล้ว ยังทำให้อีกฝ่ายไอตามได้ด้วยนะ ลูกจะไอเล่นๆ อยู่อย่างนี้แค่ไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเอง พอแกค้นพบอะไรใหม่ หรือเสียงใหม่ๆ แกก็จะหันไปสนใจสิ่งใหม่นั้นแทนค่ะ