พัฒนาการเด็ก: การดูแลเด็กมีไข้ คู่มือเลี้ยงลูก หนังสือเสริมพัฒนาการ ของเล่นเสริมพัฒนาการ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารเด็ก เด็กสองภาษา ดนตรีเพื่อลูกรัก นิสัยการนอน ฟันน้ำนมซี่แรก ภาษาลูกน้อย หน้าที่ของบิดามารดา เลี้ยงลูกให้ฉลาด เสริมสร้างความภูมิใจให้ลูก คู่มือเลี้ยงเด็ก



พัฒนาการเด็ก
ยินดีต้อนรับสู่ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับลูกน้อย
พัฒนาการลูกรัก ♥ ช้าไม่ได้ อ่านเลยนะคะ
ถ้าเห็นว่าเว็บไซต์นี้ดีมีประโยชน์ โปรดช่วยบอกต่อ

การดูแลเด็กมีไข้


เมื่อลูกหลานของท่านมีอาการไข้ตัวร้อน ควรให้การดูแลดังต่อไปนี้ คือ
1. เช็ดตัว
2. ให้ยาลดไข้ ถ้าจำเป็นควรให้ยากันชักตามที่แพทย์สั่ง
3. ดื่มน้ำมากๆ
4. ไม่ควรห่มผ้าที่หนาเกินไป
5. อยู่ในห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวกไม่อับหรือร้อนเกินไป
6. นอนพัก

การเช็ดตัว
เมื่อรู้สึกไข้สูงหรือหลังจากวัดปรอทพบว่ามีไข้ 38°c ขึ้นไป ควรเช็ดตัวให้ด้วยน้ำอุ่นถ้ารู้สึกหนาว ควรถอดเสื้อผ้าออกให้หมดถ้าเป็นเด็กเล็ก วิธีเช็ดตัวนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ ถูตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช็ดค่อนข้างแรงเพื่อให้เส้นเลือดบริเวณนั้นขยาย มีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น จะช่วยให้ความร้อนระเหยออกจากร่างกายได้ดี ตามบริเวณข้อพับ ขาหนีบ รักแร้ หน้าผากควรใช้ผ้าชุบน้ำบอดหมาดๆ วางประคบไว้ เมื่อรู้สึกว่าผ้าร้อน ควรชุบน้ำให้หมาดๆ วางประคบใหม่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนน้ำที่นำมาเช็ดตัวรู้สึกร้อน ห้องที่เช็ดตัว ไม่ควรมีลมโกรกมากเกิน และควรปิดพัดลมก่อนเพื่อมิให้คนไข้หนาวสั่นระหว่างเช็ดตัว เมื่อเสร็จควรซับตามตัวให้แห้งแล้วใส่เสื้อผ้าให้ ถ้าคนไข้รู้สึกหนาว ห่มผ้าให้ได้อีกเนื่องจากความร้อนในร่างกายไม่มีทางระบายออกสู่ภายนอก หรือระบายได้แต่ไม่ดี ภายหลังเช็ดตัวแล้ว 20 นาที ให้วัดปรอทอีกครั้ง ถ้าไข้ยังสูงอีกก็ควรเช็ดตัวอีกครั้งจนรู้สึกดีขึ้น

ยาลดไข้
ก็เป็นสิ่งจำเป็นทุกครั้ง เมื่อมีไข้ตั้งแต่ 38°c ขึ้นไปควรรับประทานยาลดไข้ตามขนาด และตามเวลาที่แพทย์สั่ง ยาลดไข้มักจะเป็นยาประเภทลดไข้แก้ปวดไปด้วย ที่รู้จักกันดีก็คือ แอสไพริน,พาราเซตามอล, เอ.พี.ซี. ฯลฯ ถ้าเป็นของเด็กเล็กที่กลืนยาเม็ดไม่ได้จะมีชนิดน้ำเชื่อม สำหรับเด็ก

ดื่มน้ำ
ให้ดื่มน้ำมากๆ น้ำที่ว่านี้นอกจากจะเป็นน้ำดื่ม เครื่องดื่มแล้ว อาหารก็ควรจะมีน้ำอยู่มาก เช่น ข้าวต้ม หรือ โจ๊ก เพื่อให้น้ำขับความร้อนออกทางปัสสาวะ จะสังเกตได้เวลามีไข้ปัสสาวะที่ออกมาจะร้อนมาก ถ้าปัสสาวะที่ออกมาสีเหลืองเหมือนน้ำชา และปริมาณน้อยแสดงว่าร่างกายขาดน้ำ ฉะนั้นควรได้น้ำเข้าไปให้เพียงพอ (ประมาณ 2-3 ขวดต่อวันหรือกินให้มากพอจนกระทั่งปัสสาวะบ่อย สีใสขึ้น) สำหรับน้ำดื่มจะจำกัดในคนไข้ที่มีอาการบวมเพราะจะทำให้บวมเพิ่มขึ้น

เสื้อผ้า ผ้าห่ม
คนไข้ที่มีไข้สูงๆ ส่วนมากจะมีอาการหนาวสั่นด้วย และพ่อแม่จะหาผ้าห่มมาให้ห่ม หาเสื้อผ้าที่หนาๆ แขนยาวมาให้ใส่กันหนาว การที่ทำเช่นนี้ผิดอย่างมากเพราะจะทำให้ไข้สูงยิ่งขึ้น ดังที่ได้กล่าวไว้แล้ว ฉะนั้นเสื้อผ้าควรใส่ชนิดธรรมดาตามฤดูกาล ผ้าห่มควรเป็นผ้าที่เบาบาง อากาศถ่ายเทได้ เช่น ผ้าแพร เป็นต้น

บรรยากาศโดยรอบ
ห้องที่คนไข้อยู่ ไม่ควรมีลมโกรกมากและไม่อับและร้อนเกินไป ควรเป็นห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก พัดลมอาจเปิดได้แต่ควรส่ายไปมา เพื่อไม่ให้ถูกตัวคนไข้มากนัก เพราะจะทำให้มีอาการหนาวสั่นได้ พักผ่อน ควรให้นอนพัก การนอนพัก หมายถึง การลดการออกกำลังกายของร่างกาย เพื่อลดระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกายไปด้วย เมื่อการเผาผลาญอาหารน้อย ความร้อนก็จะไม่สูง

การวัดไข้
ควรวัดไข้ทุก 4 ชั่วโมง จดความร้อนที่วัดได้ทุกครั้ง เพื่อรู้อาการเปลี่ยนแปลง ส่วนมากในช่วงบ่ายไข้จะสูงกว่าเวลาเช้า ค่าปกติของอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 37°c หรือ 98.6°f อุณหภูมิที่ถือว่ามีไข้ต่ำๆ คือ อุณหภูมิระหว่าง 37.5-37.9°c อุณหภูมิที่ถือว่าไข้สูงตั้งแต่ 38.5°c ขึ้นไป บางรายอาจเป็น 40 - 41°c

ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารหมอชาวบ้าน 
เรียบเรียงโดย ทีมงานพัฒนาการเด็ก


ถ้าเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์กรุณาช่วยบอกต่อด้วยนะคะ
URL: www.พัฒนาการเด็ก.com/2012/07/sick.html

2 comments:

Unknown on 3 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10:29 กล่าวว่า...

มีโปรโมชั่น ค่ารักษาพยาบาล ในโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ

แอน 089-5212496

พ่อน้องก้าว on 28 กันยายน 2559 เวลา 08:07 กล่าวว่า...

ของคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น

 

Copyright © 2011 - 2016 พัฒนาการเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เลี้ยงลูกรักให้มีความสุขสมวัย