เจ้าตัวเล็กนอนคอเอียงอยู่หรือเปล่าคะ? แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นอาการปกติของเด็กที่คอยังไม่แข็ง หรือมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกแล้ว!
ทำไมคอเอียง
โดยทั่วไปเด็กที่คอเอียงสามารถแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ
คอเอียงแต่กำเนิด ทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่สันนิษฐานว่าเกิดจากการที่เด็กอยู่ในท่าผิดปกติระหว่างอยู่ในครรภ์ หรือเกิดภาวะครรภ์มีน้ำน้อยหรืออาจจะเกิดจากสาเหตุที่ตาของเด็ก บางคนไม่เท่ากัน ทำให้เวลาเด็กมองต้องเอียงคอตามไปด้วย รวมทั้งจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น เกิดจากเนื้องอกที่กล้ามเนื้อบริเวณคอไปกระตุ้นให้คอเอียง ปัญหากระดูกคอติดเชื้อ และต่อมน้ำเหลืองโต
คอเอียงหลังคลอด ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ ทำให้กระดูกล็อกและเกิดคอเอียงในที่สุด เช่น จากการเล่นกีฬาหรือหกล้ม เป็นต้น
ความแตกต่างแบบไหนไม่ปกติ
ระหว่างลูกคอไม่แข็งและภาวะคอเอียงสามารถสังเกตได้ดังนี้ค่ะ
เด็กที่คอยังไม่แข็ง แม้คอจะเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะสามารถนอนหันหน้าได้ทั้ง 2 ด้าน
ภาวะคอเอียง ลักษณะที่คอเอียงไปทางซ้าย แต่เด็กจะหันหน้าไปทางขวาหรือถ้าคอเอียงไปทางขวาก็จะหันหน้าไปทางซ้าย เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณคอยึดตึงเด็กจึงคอเอียงและหันหน้าไปด้านตรงข้ามในเด็กเล็กที่อาการคอเอียงยังไม่มาก วิธีสังเกตที่ชัดเจน คือ เด็กจะนอนหันหน้าไปข้างใดข้างหนึ่งตลอดเวลา ถ้าคลำบริเวณหลังหูหรือใต้หูของด้านที่เอียงจะพบว่ามีก้อนเนื้อ ถ้าได้รับการดูแลและบริหารกล้ามเนื้อคอสม่ำเสมอ อาการคอเอียงก็จะหายได้เองและไม่เป็นอันตราย
คอเอียง...ภาวะที่ต้องรักษา
เด็กที่คอเอียงแล้วไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ต้น เมื่อโตขึ้นจะส่งผลต่อโครงสร้างใบหน้าและกะโหลก เช่น มีใบหน้าไม่สมดุล (หน้าเบี้ยว) ซึ่งถ้าเกิดกรณีแบบนี้ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่กลุ่มนี้จะพบในต่างประเทศมากกว่าในประเทศไทยค่ะ
ภาวะคอเอียงจะไม่ส่งผลต่อพัฒนาการของลูก แต่จะส่งผลต่อกล้ามเนื้อที่ไม่สมดุลกัน และไม่ส่งผลต่อการใช้สายตาของเด็ก เพราะดวงตาของเด็กไม่ได้เอียงตามไปด้วย นอกจากเด็กมีดวงตาที่เขมากจนทำให้คอเอียง ซึ่งกรณีนี้ต้องได้รับการรักษาที่ดวงตาค่ะ
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ
หมั่นสังเกตอาการ ถ้าลูกหันคอไปด้านใดด้านหนึ่งตลอดเวลา ไม่สามารถหันได้ทั้ง 2 ด้าน ควรพาลูกไปตรวจหาสาเหตุ ถ้าลูกมีปัญหาคอเอียงผิดปกติ คุณหมอจะช่วยจัดท่าในขั้นแรก เพื่อคุณพ่อคุณแม่จะได้ไปทำต่อให้ลูกอย่างถูกต้อง และทราบว่าควรบริหารกล้ามเนื้อมากน้อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสมกับลูก เพราะหากบริหารมากเกินไป กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอาจบวมช้ำได้
จัดท่านอนและบริหารกล้ามเนื้อคอ ควรทำให้ลูกเป็นประจำ เช่น ถ้าลูกนอนเอียงคอไปด้านใด ก็จัดให้นอนหันไปในด้านตรงกันข้าม
ให้ใช้ของเล่นที่ลูกชอบจับ ชอบเล่นเป็นประจำ สำหรับหลอกล่อลูกเพื่อฝึกให้ลูกหันคอทั้ง 2 ด้าน
เปลี่ยนท่าให้นม เพื่อทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอของลูกได้ขยับและยืดหยุ่น จนคอทั้ง 2 ด้านสมดุลกัน
คุณหมอแนะนำ
จัดท่านอนและบริหารกล้ามเนื้อคอวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที แต่ถ้าลูกมีอาการคอเอียงมากจนกล้ามเนื้อคอเป็นพังผืด เมื่อบริหารคอตามเวลาที่คุณหมอแนะนำ ลูกอาจจะร้องเพราะเจ็บ จึงควรจัดท่านอนให้เหมาะสมกับการบริหาร เพื่อให้กล้ามเนื้อคอของลูกยืดหยุ่นได้ง่าย
หากบริหารคอมาระยะหนึ่ง แต่ยังไม่หายเป็นปกติ ควรกลับไปพบคุณหมอ เพื่อทำกายภาพบำบัดหรือใส่ที่พยุงคอและวิธีสุดท้ายคือการผ่าตัดกล้ามเนื้อ เพื่อรักษาอาการคอเอียงค่ะ
แม้ว่าภาวะคอเอียงจะเป็นปัญหาที่ไม่หนักจนน่าห่วง แต่ก็ไม่ควรละเลย เพราะยิ่งรู้เร็ว รักษาเร็ว ลูกก็จะหายเป็นปกติค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารรักลูกฉบับที่ 327 เมษายน 2553
เรียบเรียงโดย ทีมงานพัฒนาการเด็ก
0 comments:
แสดงความคิดเห็น